บทความ

งานบริหารทรัพยากรมนุษย์ มือใหม่ เพื่อก้าวสู่ HR มืออาชีพ (HR for HR Professional)


งานบริหารทรัพยากรมนุษย์ มือใหม่ เพื่อก้าวสู่ HR มืออาชีพ

งานบริหารทรัพยากรมนุษย์ มือใหม่ เพื่อก้าวสู่ HR มืออาชีพ

การเริ่มต้นในงานบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HR) ในฐานะมือใหม่เพื่อก้าวสู่ HR มืออาชีพ (HR for HR Professional) เป็นการท้าทายและมีความสำคัญอย่างมาก การเริ่มต้นในสายอาชีพ HR มือใหม่ ต้องการความพยายามและการทำงานอย่างรอบคอบ เพื่อที่จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเป็น HR Professional ในอนาคตได้

การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่

การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่

การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่

การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่ นั้นมีแนวโน้มที่เน้นการใช้แนวคิดและวิธีการที่แตกต่างจากแบบแผนเดิม โดยมีลักษณะที่เด่นคือดังนี้

  1. เป็นไปตาม "แนวนโยบาย" และเชื่อมโยงกับทิศทางขององค์กร การบริหารทรัพยากรมนุษย์ นั้นจะมุ่งเน้นการทำงานให้เป็นไปตามนโยบาย หรือแผนการที่กำหนดไว้ตามทิศทาง หรือวิสัยทัศน์ขององค์กร เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
  2. ยึดสมรรถนะและพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสมรรถนะของบุคลากรและส่งเสริมให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยให้โอกาสและการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาอาชีพ การสร้างสุขภาพที่ดี และการสร้างสมดุลในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน
  3. เป็นไปตามระบบคุณธรรมแนวใหม่ การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่มุ่งเน้นการปฏิบัติตามค่านิยม และความถูกต้องทางจริยธรรมในการดำเนินงาน เพื่อสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเป็นธรรม และความรับผิดชอบ
  4. ยึดผลการปฏิบัติงาน การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่มองหาผลการปฏิบัติงานและผลลัพธ์ที่เป็นเชิงลบและเชิงบวกจากพนักงาน เพื่อนำไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานในอนาคต
  5. ใช้คนน้อยแต่ประสิทธิภาพสูง การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่มักมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรมนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพโดยการจัดการและใช้ทรัพยากรให้เกิดผลผลิตสูงสุดโดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรมากมาย
  6. เลือกคนเก่งคนดี มุ่งเน้นการสรรหและเลือกบุคคลที่มีความสามารถ และคุณภาพดีเพื่อรับใช้ในองค์กร
  7. ยืดหยุ่นและหลากหลาย การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่มุ่งเน้นการเป็นอยู่ในสภาวะที่ยืดหยุ่น และสามารถปรับตัวได้ตามสถานการณ์ และเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมธุรกิจ รวมถึงการสนับสนุนความหลากหลายในองค์กร
  8. มีเจ้าภาพงาน: การบริหารทรัพยากรมนุษย์แนวใหม่มุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนและส่งเสริมการทำงานที่มีเจ้าภาพและความรับผิดชอบต่องานของพนักงาน
โดยการนำแนวคิดและการทำงานตามแนวทางดังกล่าวมาปรับใช้ในการบริหารทรัพยากรมนุษย์ จะช่วยให้องค์กรมีประสิทธิภาพและเติบโตไปอย่างยั่งยืนในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสภาวะธุรกิจที่แข่งขันอย่างไม่หยุดยั้ง

HR Function

HR Function

HR Function

1. ด้านการพัฒนา (HRD - Human Resource Development)

  • มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทักษะและศักยภาพของพนักงาน
  • ครอบคลุมกิจกรรมต่างๆ เช่น:
  • การฝึกอบรม: พัฒนาทักษะ ความรู้ และความสามารถของพนักงาน
  • การศึกษา: ส่งเสริมการศึกษาต่อและการเรียนรู้ตลอดชีวิต
  • การพัฒนา: สนับสนุนการเติบโตและความก้าวหน้าในสายงานของพนักงาน
  • เป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้พนักงานมีประสิทธิภาพและบรรลุศักยภาพสูงสุด

2. ด้านการบริหาร (HRM - Human Resource Management)

  • มุ่งเน้นไปที่การจัดการทรัพยากรบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ครอบคลุมกิจกรรมต่างๆ เช่น:
  • การสรรหา: ค้นหาและดึงดูดผู้สมัครที่มีความสามารถ
  • การคัดเลือก: เลือกผู้สมัครที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน
  • การวางตำแหน่งงาน: กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละตำแหน่ง
  • การประเมินผลงาน: วัดผลและให้ feedback แก่พนักงาน
  • ค่าจ้างค่าตอบแทน: กำหนดระบบเงินเดือน สวัสดิการ และผลประโยชน์
  • การวางแผนอัตรากำลัง: คาดการณ์จำนวนพนักงานที่เหมาะสม
  • เป้าหมายเพื่อสร้างระบบการบริหารจัดการพนักงานที่มีประสิทธิภาพ สนับสนุนกลยุทธ์ขององค์กร และรักษาแรงจูงใจของพนักงาน

3. ด้านการบริหารแรงงานสัมพันธ์ (HRE - Human Resource Expansion)

  • มุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานและฝ่ายบริหาร
  • ครอบคลุมกิจกรรมต่างๆ เช่น:
  • การสื่อสาร: แจ้งข้อมูล ข่าวสาร และนโยบายต่างๆ แก่พนักงาน
  • การเจรจาต่อรอง: หาข้อตกลงร่วมกันระหว่างพนักงานและฝ่ายบริหาร
  • การจัดการความขัดแย้ง: แก้ไขปัญหาและความขัดแย้งระหว่างพนักงาน
  • การประสานงานกับสหภาพแรงงาน: ทำงานร่วมกับสหภาพแรงงานเพื่อปกป้องสิทธิของพนักงาน
  • เป้าหมายเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้ออำนวย ส่งเสริมความสามัคคี และบรรลุเป้าหมายร่วมกัน
ดังนั้น ส่วนของ HR Function ประกอบด้วยการบริหารทรัพยากรมนุษย์ทั้งสามด้านมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในองค์กรอย่างเป็นระบบและมุ่งเน้นให้ความสำเร็จขององค์กรได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสมในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ

การวางแผนทรัพยากรมนุษย์

การวางแผนทรัพยากรมนุษย์

การวางแผนทรัพยากรมนุษย์

งานบริหารทรัพยากรมนุษย์ กับการวางแผนทรัพยากรมนุษย์

งานบริหารทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Management: HRM) เป็นกระบวนการที่มีระบบเพื่อจัดการพนักงานในองค์กรให้บรรลุเป้าหมายตามที่องค์กรต้องการ ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมหลัก ๆ ดังนี้

1. การวางแผนทรัพยามนุษย์ (Human Resource Planning) กระบวนการวางแผนทรัพยากรมนุษย์เน้นใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อประมาณการความต้องการในทรัพยากรมนุษย์ในองค์กรในอนาคต โดยพิจารณาตัวแปรต่าง ๆ เช่น ความต้องการของฝ่ายงานต่าง ๆ และสถานการณ์ภายนอก เพื่อให้สามารถจัดสรรทรัพยากรมนุษย์ให้เหมาะสมกับความต้องการขององค์กร

  • เป็นการคาดการณ์ความต้องการพนักงานในอนาคต
  • วิเคราะห์ทักษะและความรู้ที่จำเป็น
  • วางแผนกลยุทธ์เพื่อดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีคุณภาพ

2. การจัดคนเข้าทำงาน (Recruitment and Selection) เป็นกระบวนการที่ใช้ในการระบุ และเลือกคนที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งงานที่ว่างในองค์กร ซึ่งรวมถึงการโฆษณาตำแหน่งงาน การสร้างแหล่งข้อมูลผู้สมัคร การสร้างและดำเนินกระบวนการสัมภาษณ์ และการเลือกคนที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งงานนั้น ๆ

  • ค้นหาและคัดเลือกผู้สมัครที่มีความเหมาะสม
  • ออกแบบกระบวนการสรรหาที่มีประสิทธิภาพ
  • จัดการ onboarding ให้พนักงานใหม่

3. การฝึกอบรมและพัฒนา (Training and Development) เป็นกระบวนการที่ใช้ในการพัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงานในองค์กร โดยการจัดกิจกรรมฝึกอบรมเพื่อเพิ่มความสามารถในการปฏิบัติงานและส่งเสริมการเติบโตของพนักงานในองค์กร

  • พัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงาน
  • ส่งเสริมการเรียนรู้และการเติบโต
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

4. ค่าตอบแทน (Compensation) เป็นกระบวนการที่ใช้ในการกำหนดระดับค่าตอบแทน และสวัสดิการต่าง ๆ สำหรับพนักงานในองค์กร เพื่อให้มีความเป็นธรรมและเสถียรภาพทางการเงินในองค์กร

  • ออกแบบระบบเงินเดือนและสวัสดิการที่ดึงดูดและรักษาพนักงาน
  • กำหนดค่าจ้างให้เหมาะสมกับตำแหน่งงานและประสิทธิภาพ
  • บริหารจัดการสวัสดิการให้คุ้มค่า

5. การประเมินผล (Performance Appraisal) เป็นกระบวนการที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพและผลการทำงานของพนักงานในองค์กร เพื่อให้มีการปรับปรุงและพัฒนาความสามารถของพนักงานต่อไป

  • วัดผลและประเมินผลงานของพนักงาน
  • ให้ feedback เพื่อการพัฒนา
  • ส่งเสริมความยุติธรรมและโปร่งใส

6. รักษาบุคลากร (Retention) เป็นกระบวนการที่ใช้ในการสร้างบรรยากาศที่ดีในองค์กรเพื่อให้พนักงานต้องการอยู่ในองค์กรอย่างยาวนาน โดยการให้สวัสดิการและโอกาสที่ดีให้กับพนักงาน เพื่อลดการเสียสละและสร้างความผูกพันที่แข็งแกร่งกับองค์กร

  • สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี
  • ส่งเสริมแรงจูงใจและความพึงพอใจ
  • รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับพนักงาน

ความสัมพันธ์ระหว่างงานบริหารทรัพยากรมนุษย์ กับการวางแผนทรัพยากรมนุษย์

การวางแผนทรัพยากรมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของงานบริหารทรัพยากรมนุษย์ เป็นการวางรากฐานและกำหนดทิศทางให้กับกิจกรรมอื่น ๆ ของ HRM

ตัวอย่างเช่น

  • แผนการสรรหาพนักงานจะต้องสอดคล้องกับแผนการเติบโตขององค์กร
  • โปรแกรมฝึกอบรมจะต้องพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับงาน
  • ระบบค่าตอบแทนจะต้องดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีคุณภาพ

เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ Career Path

เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ Career Path

เส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ Career Path

การเติบโตในสายงานทรัพยากรมนุษย์ (HR) มีเส้นทางความก้าวหน้าที่หลากหลายและมักจะขึ้นอยู่กับความสนใจ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของบุคคลในตำแหน่งนั้น ๆ ดังนั้น การกำหนดเส้นทางความก้าวหน้าในสายงาน HR สามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนต่อไปนี้

1.กำหนดเงื่อนไขในการเติบโตตามเส้นทางอาชีพ

  • ระบุความรู้, ทักษะ, และประสบการณ์ที่จำเป็นสำหรับการเติบโตในตำแหน่งที่ต้องการ
  • กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายในการเติบโตในอาชีพ

2. เขียนแผนผังแสดงเส้นทางความก้าวหน้า

  • สร้างแผนผังแสดงเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ HR ที่เป็นไปได้และเป็นที่น่าสนใจสำหรับพนักงาน
  • แสดงตำแหน่งและระดับการบริหารทรัพยากรมนุษย์ต่าง ๆ ที่สามารถเข้าถึงได้

3. จัดกลุ่มงานที่มีลักษณะงาน & competency ใกล้เคียงกัน

  • สร้างกลุ่มงานที่มีลักษณะงานและความสามารถใกล้เคียงกันไว้ในกลุ่มงานเดียวกัน เพื่อการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่มีความเชี่ยวชาญ

4.วิเคราะห์งานและจัดทำ Job-Position Profile

  • ศึกษาและวิเคราะห์งานในกลุ่มงานต่าง ๆ เพื่อเข้าใจความต้องการของตำแหน่งงานและความสามารถที่จำเป็น
  • จัดทำโปรไฟล์ตำแหน่งงาน (Job-Position Profile) เพื่อระบุคุณสมบัติและความรับผิดชอบของตำแหน่งงานนั้น

5.ออกแบบเส้นทางความก้าวหน้าสำหรับตำแหน่งเป้าหมาย

  • สร้างเส้นทางความก้าวหน้าที่ชัดเจนและเป็นไปได้สำหรับตำแหน่งงานที่เป้าหมาย
  • กำหนดแผนการพัฒนาทักษะและการฝึกอบรมที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตในตำแหน่งนั้น ๆ

6.ศึกษาสภาพปัญหาเกี่ยวกับโอกาสและความก้าวหน้าของพนักงาน

  • วิเคราะห์ปัญหาและความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในการเติบโตในอาชีพ HR
  • ระบุโอกาสและแนวทางในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นเพื่อสร้างเส้นทางความก้าวหน้าที่เหมาะสม

7.ศึกษาโครงสร้างองค์กรและนโยบายด้านบุคคล

  • ศึกษาโครงสร้างองค์กรเพื่อเข้าใจโครงสร้างการบริหารทรัพยากรมนุษย์และสายงาน
  • ศึกษานโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพยากรมนุษย์เพื่อให้เข้าใจแนวทางในการเติบโตในองค์กร
การสร้างเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ HR นี้จะช่วยให้บุคคลที่ทำงานในสายงาน HR เข้าใจและมีแนวทางที่ชัดเจนในการพัฒนาอาชีพของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพและรอบคอบ

บทบาทของ HR และ Line (หัวหน้างาน)

บทบาทของ HR และ Line (หัวหน้างาน)

บทบาทของ HR และ Line (หัวหน้างาน)

HR และ Line (หัวหน้างาน) ต่างมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเป้าหมาย โดยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดใน 4 ด้านหลัก ดังนี้

1. Line กับงานด้านสรรหาและคัดเลือก

HR มีบทบาทในการสรรหาและคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งงานในองค์กร โดยใช้เครื่องมือและกระบวนการที่เหมาะสม เช่น

  • การโฆษณาตำแหน่งงาน
  • การสร้างรายชื่อผู้สมัครที่เหมาะสม
  • การดำเนินการสัมภาษณ์
  • กำหนดคุณสมบัติและทักษะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งงาน
  • ออกแบบกระบวนการสรรหาและคัดเลือก
  • ค้นหาและคัดเลือกผู้สมัคร

Line มีบทบาทในการรับผิดชอบในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการของตำแหน่งงาน และคุณสมบัติที่เหมาะสมของผู้สมัคร รวมถึงการมีส่วนร่วมในกระบวนการสรรหาและการคัดเลือกโดยการให้ข้อเสนอแนะหรือการสนับสนุนในการตัดสินใจสุดท้าย เช่น

  • ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรและลักษณะงาน
  • ร่วมสัมภาษณ์ผู้สมัคร
  • ตัดสินใจเลือกผู้สมัคร

2. Line กับงานด้านฝึกอบรมและพัฒนา

HR มีบทบาทในการวางแผนและดำเนินการในการฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน โดยสร้าง และดำเนินโปรแกรมการฝึกอบรมที่เหมาะสมกับความต้องการ และวัตถุประสงค์ขององค์กร เช่น

  • ออกแบบโปรแกรมการฝึกอบรม
  • จัดทำงบประมาณ
  • ประเมินผลการฝึกอบรม

Line มีบทบาทในการรับผิดชอบในการเข้าร่วมโปรแกรมฝึกอบรมและการพัฒนาของทีมงาน โดยการสนับสนุนและส่งเสริมพนักงานให้เข้าร่วมโปรแกรมที่เหมาะสมและให้ความสนใจในการพัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงาน เช่น

  • ระบุความต้องการการฝึกอบรมของพนักงาน
  • สนับสนุนให้พนักงานเข้าร่วมการฝึกอบรม
  • ประเมินผลลัพธ์ของการฝึกอบรม

3. Line กับงานด้านการจูงใจและรักษา

HR มีบทบาทในการวางแผนและดำเนินการในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจูงใจและการรักษาพนักงานในองค์กร เช่น

  • การจัดกิจกรรมสันทนาการ
  • การจัดโปรแกรมสวัสดิการ
  • การพัฒนาวัฒนธรรมองค์กร
  • ออกแบบระบบเงินเดือนและสวัสดิการ
  • จัดกิจกรรมส่งเสริมขวัญกำลังใจ
  • ดูแลสภาพแวดล้อมการทำงาน

Line มีบทบาทในการสร้างบรรยากาศที่ดีในทีมงาน, การให้การติดตามและเสริมสร้างความเชื่อมั่นในงานและองค์กร โดยการให้คำแนะนำและการสนับสนุนในการเพิ่มพลังงานและความกระตือรือร้นในทีมงาน เช่น

  • ให้ feedback แก่พนักงาน
  • มอบหมายงานท้าทาย
  • สนับสนุนการเติบโตในสายงาน

4. Line กับงานด้านการบริหารคนให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

HR มีบทบาทในการวางแผนและดำเนินการในระบบการจัดการผลประโยชน์และค่าตอบแทนของพนักงานในองค์กร เพื่อให้มีระบบที่เป็นธรรมและเสถียร เช่น

  • กำหนดนโยบายและแนวทางปฏิบัติ
  • ให้คำปรึกษาแก่หัวหน้างาน
  • พัฒนาระบบการบริหารผลงาน

Line มีบทบาทในการให้ข้อมูลและสนับสนุนในกระบวนการบริหารคนให้ได้รับประโยชน์สูงสุด โดยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการและความพึงพอใจของพนักงานต่อระบบบริหารการทำงานและผลประโยชน์ต่าง ๆ ในองค์กร เพื่อให้มีการจัดการที่เหมาะสมและพัฒนาการทำงานของทีมให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นได้ เช่น

  • บริหารจัดการงานและพนักงาน
  • ประเมินผลงานพนักงาน
  • พัฒนาศักยภาพของพนักงาน

ตัวอย่าง

  • Line ร่วมสัมภาษณ์ผู้สมัครเพื่อค้นหาผู้ที่มีทักษะและความเหมาะสมกับตำแหน่ง
  • Line เสนอแนะโปรแกรมการฝึกอบรมที่พนักงานต้องการ
  • Line ให้ feedback แก่พนักงานอย่างสม่ำเสมอ
  • Line มอบหมายงานท้าทายและสนับสนุนการเติบโตของพนักงาน
HR และ Line (หัวหน้างาน) ต่างมีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดจะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ประโยชน์ที่หัวหน้างานตามสายงานจะได้รับจากการบริหารบุคคล

ประโยชน์ที่หัวหน้างานตามสายงานจะได้รับจากการบริหารบุคคล

ประโยชน์ที่หัวหน้างานตามสายงานจะได้รับจากการบริหารบุคคล

ประโยชน์ที่หัวหน้างานตามสายงานจะได้รับจากการบริหารบุคคล

การบริหารบุคคลที่ดีจะส่งผลดีต่อหัวหน้างานในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้

1. มีเวลาบริหารจัดการงานเชิงกลยุทธ์

  • การวางแผนกำลังคนที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้หัวหน้างานมีเวลาจัดการงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น
  • การมอบหมายงานที่เหมาะสมกับทักษะและความสามารถของพนักงาน ช่วยให้ทำงานเสร็จตามเป้าหมาย
  • การพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้พนักงานมีทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับการทำงาน

2. ลดปัญหาการลาออก

  • การจูงใจพนักงานด้วยระบบเงินเดือน สวัสดิการ และโอกาสในการเติบโต ช่วยให้รักษาพนักงานที่มีคุณภาพ
  • การใส่ใจและให้ความสำคัญกับพนักงาน ช่วยให้พนักงานรู้สึกผูกพันกับองค์กร
  • การมีวิธีสร้างความผูกพันระหว่างหัวหน้างานกับพนักงาน ช่วยให้พนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีม

3. ได้รับการยอมรับนับถือ และได้ความรู้สึกภาคภูมิใจ

  • การบริหารจัดการพนักงานที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้หัวหน้างานได้รับการยอมรับจากลูกน้อง
  • การเป็นผู้นำที่ดี ช่วยให้หัวหน้างานได้รับความภาคภูมิใจในผลงานของทีม

4. มีผลงาน (Productivity) สูงอันเกิดจากได้รับความร่วมมือ

  • การบริหารบุคคลที่ดี ช่วยให้พนักงานมีแรงจูงใจและทำงานอย่างเต็มศักยภาพ
  • การมีทีมที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ทำงานเสร็จตามเป้าหมายและบรรลุเป้าหมายขององค์กร

ตัวอย่าง

  • หัวหน้างานที่บริหารบุคคลได้ดี สามารถวางแผนกำลังคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีพนักงานเพียงพอสำหรับงานแต่ละประเภท
  • หัวหน้างานที่ใส่ใจและให้ความสำคัญกับพนักงาน พนักงานจะรู้สึกผูกพันกับองค์กรและมีแรงจูงใจทำงาน
  • หัวหน้างานที่เป็นผู้นำที่ดี พนักงานจะเคารพและยอมรับ ช่วยให้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น

สรุป

การบริหารบุคคลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับหัวหน้างาน การบริหารบุคคลที่ดีจะส่งผลดีต่อหัวหน้างานในหลาย ๆ ด้าน หัวหน้างานควรให้ความสำคัญกับการบริหารบุคคลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและบรรลุเป้าหมายขององค์กร

บรรยากาศการอบรม งานบริหารทรัพยากรมนุษย์ มือใหม่ เพื่อก้าวสู่ HR มืออาชีพ (HR for HR Professional)



CategoriesHRD / HRM

Topprofessional And Development

สถาบันฝึกอบรมและที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์และองค์กร บริการให้คำปรึกษาด้านระบบ ISO แบบครบวงจรด้วยหลักสูตรคุณภาพอาจารย์ผู้สอนมากด้วยประสบการณ์

วันทำการ ( จันทร์ - เสาร์ เวลา 8:00 - 17:00 น. )

ติดตามเรา

icon-facebookicon-lineicon-youtubeicon-tiktok
Copyright 2023 © HERMES Digital Marketing . All Rights Reserved